
กลับถึงที่พัก ฮยอนจุงให้ฮวางโบไปเปลี่ยนชุด ส่วนเค้าจะเป็นคนเตรียมอาหารให้เอง พอถึงเวลา ฮยอนจุงได้โทรเรียกฮวางโบออกมา ฮวางโบมาในชุดราตรี ส่วนฮยอนจุง ใส่ชุดมิกกี้เหมือนเดิม ทำให้เขามีความรู้สึกว่าเหมือนคนรับใช้ของเธอ มาถึงตอนทานอาหาร ทั้งคู่ดูเหมือนไม่มีอะไรจะคุย ฮยอนจุงเลยถามฮวางโบว่าปกติพี่กินผักกาดหอมห่อหรือเปล่า ผมน่ะไม่กินผักกาดหอมห่อ ปกติผมจะกินหมูก่อนแล้วค่อยกินผักกาดหอมตาม ทำให้ฮวางโบถึงกับฮาแตก จนทั้งคู่ได้รับฉายาว่า คู่รักผักกาดหอม พอหมดเรื่องผักกาดหอม ทั้งคู่ก็เงียบอีก ฮยอนจุงเลยเอาขวดโค้กขึ้นมา แล้วขอให้ฮวางโบช่วยเอาช้อนเปิดฝาขวดให้หน่อย ฮวางโบก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ แต่แล้วเธอก็ทำได้ ฮยอนจุงบอกว่าคนที่ใช้ช้อนเปิดฝาขวดได้ผมคิดว่าค่อนข้างเจ๋งเลยที่เดียว ระหว่างทานอาหารทั้งคู่คิดหาสรรพนามเรียกกันใหม่ ฮวางโบ บอกให้ ฮยอนจุงเรียกเธอว่า Ya! ก็ได้ แต่ฮยอนจุงคิดว่ามันไม่สุภาพ เลยเรียกเธอว่า บูอิน(เจ้าสาว)แทน ฮวางโบก็บอกว่า งั้นเธอจะเรียกเขาว่าง ชิลลาง ซึ่งมีความหมายว่าเจ้าบ่าวนั่นเอง หลังจากดินเนอร์ที่แสนโรแมนติก(มั๊ง) ทั้งคู่ก็กลับเข้าห้อง ฮยอนจุงได้อาบน้ำเสร็จก่อน ส่วนฮวางโบได้ล้างเครื่องสำอางออก ทำให้พิธีกรได้ล้อว่า นั่นคือใครอ่ะ (สงสัยจำฮวางโบตอนไม่ได้แต่งหน้าไม่ได้) ส่วนฮยอนจุงที่นั่งอ่านการ์ตูนอยู่ ก็เอาแต่นั่งตบยุง เขาได้บอกว่า เค้ารู้สึกว่าได้ปกป้องภรรยาของเขา(ยุงน่ะไม่ใช่สัตว์ประหลาด)ฮวางโบก็ได้ล้างเครื่องสำอางให้ฮยอนจุงด้วย หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เขียนสัญญารักขึ้นมา ฮยอนจุงเขียนว่า1 ถ้าภรรยาของผมไม่สบาย ผมจะไปในทุกที่เพื่อเอายามาให้เธอ2 จะไม่มองผู้หญิงคนอื่น3 ไม่ว่าต้องเจอเรื่องร้ายหรือเรื่องลำบากขนาดไหน ผมก็จะเผชิญหน้ากับมันด้วยความมั่นใจ 4 การแต่งงานในอุดมคติ คือได้มีภรรยาอยู่เคียงข้างตลอดชีวิต5 เป็นเจ้าบ่าวที่เหมือน ออกซิเจน (อากาศที่บูอินขาดไม่ได้)ในข้อสุดท้ายฮวางโบได้ถามฮยอนจุงว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาก็ตอบเธอไปว่ายังไงผมก็เป็น ไนโตรเจนไม่ได้อยู่แล้ว หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ประทับตราด้วยริมฝีปาก ฮยอนจุงถูก ฮวางโบเอาลิปสติก ทาปากฮยอนจุง แดงมากๆแต่ฮยอนจุงไม่คิดปฏิเสธเลย แต่ฮยอนจุงทาลิปแล้ว ดูแล้วสวยมากๆ(สวยกว่าเจ้าสาวอีก)
พอถึงการเตรียมอาหารงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ ฮยอนจุงอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีขาวดูน่ารักมาก ระหว่างที่ฮวางโบรื้อตู้เย็น ฮยอนจุงก็เห็น พริกหยวก สีเขียว แดง เหลือง ฮยอนจุงเลยถามไปว่า เดี๋ยวนี้มีพริกสีเหลืองด้วยหรอ ผมเคยเห็นแต่สีแดงกับเขียว ฮวางโบก็บอกไปว่า ก็เพราะมันเป็นสีเหลืองถึงมีวิตามินมากกว่าสีอื่นถึง 20 เท่า ฮยอนจุงก็ตอบไปว่า อ้าวมันไม่ใช่เพราะคนไปตัดต่อพันธุกรรมมันหรอกหรอ หลังจากถกปัญหาเรื่องพริกกันแล้ว ทั้งคู่ก็ช่วยกันเตรียมอาหาร โดยฮยอนจุงนั้นช่วยหั่นผักให้ ระหว่างทำอาหาร ฮวางโบได้ทำพิษซ่า ให้ฮยอนจุงเป็นอาหารกลางวัน ระหว่างที่กินอยู่นั้นก็มีปัญหาเรื่องพริก อีกแล้ว..พอฮวางโบมากินบ้างฮยอนจุงยกเก้าอี้ที่เป็นถังขยะให้ฮวางโบนั่งแทน (บ้านออกใหญ่แต่ไม่มีที่ให้นั่งกินข้าว) ระหว่างที่ฮวางโบกินอาหาร ฮยอนจุงก็ได้รับโทรศัพท์ ว่าเขาต้องไปทำงานกะทันหัน ทำให้ฮวางโบรู้สึกเสียใจนิดๆ ตอนที่ฮวางโบลุกขึ้นจากเก้าอี้ถังขยะ เธอได้ทำเก้าอี้ถังขยะบุบ ทำให้ฮยอนจุง สงสัยถึงน้ำหนักของเจ้าสาวของเขา
ทันใดนั้น คลื่นยักษ์ลูกแรกก็มา ฮวางโบไม่ได้ตั้งตัว ดูเหมือนจะจมน้ำฮยอนจุงก็รีบไปคว้าคอเธอขึ้นมาดูเหมือนฮวางโบไม่พร้อมที่จะเล่นกับคลื่น ทั้งคู่เลยออกมาจากสระ ฮวางโบสารภาพว่า ฉันแก่แล้ว ฉันเหนื่อยมาก ระหว่างทั้งคู่นั่งพัก ฮวางโบถามถึงบริการพิเศษ ฮยอนจุงเลยจะนวดเท้าให้ ฮวางโบตกใจมากไม่ยอมให้เขานวด เลยให้เจ้าบ่าวไปหาน้ำให้เธอดื่ม ฮยอนจุงเดินไปที่สระแล้วเอามือวักน้ำ เดิมกลับมาหาฮวางโบ ฮวางโบก็นั่งอ้าปากรอ สงสัยเจ้าบ่าวทนไม่ไหวเลยเอาน้ำสาดไปที่หน้าเธอเลย พอพักเหนื่อยกันเสร็จ ทั้งคู่ก็กลับมาที่สระอีกรอบ ฮวางโบชวนฮยอนจุงมาเล่นไล่จับ ทั้งคู่เลยพนันว่าใครแพ้ต้องเลี้ยงไอศกรีม ฮวางโบเป็นคนวิ่งไล่ฮยอนจุง แต่เจ้าบ่าววิ่งด้วยความเร็วสูงจนฮวางโบวิ่งไม่ทัน ฮวางโบเลยสั่งให้เด็กๆในสระช่วยกันตามฮยอนจุง แต่ฮยอนจุงก็ชนะอยู่ดี พอไปซื้อไอศกรีม ฮวางโบกลับซื้อเบียร์มาแบ่งกับฮยอนจุงแทน
EP4 การย้ายเรือนหอครั้งที่ 2
หลังจากไปสวนน้ำ ทั้งคู่ก็กลับมาในสภาพหมดแรงกันหมด แต่ฮวางโบก็ยังเอาแรงเฮือกสุดท้าย มาตัดเย็บชุดให้เจ้าบ่าว ฮวางโบบอกว่าเป็นเสื้อสไตล์ยิปซี ระหว่างที่ฮวางโบเย็บเสื้ออยู่นั้น ฮยอนจุงก็นั่นกินขนามอยู่ข้างๆ เค้าพยายามป้อนฮวางโบ แต่ฮวางโบบอกเธอกินเฉพาะถั่วที่อยู่ข้างใน(ขนมคล้ายๆโก๋แก่ยักษ์) พอได้ยินอย่างนั้น ฮยอนจุงก็จัดการแกะแป้งออกให้ฮวางโบ ทันใดนั้นเหมือนฮยอนจุงจะนึกอะไรได้เขาเอาเข็มมาร้อยเขนมเป็นสร้อยคอถั่วให้ฮวางโบ ฮวางโบได้บอกว่า เครื่องสำอาง.. แหวน... สร้อยคอถั่วนี่ดีที่สุด พอฮวางโบตัดเสื้อเสร็จ ฮยอนจุงก็ให้เธอเซ็นลายเซ็นที่เสื้อ เหมือนคราวที่แล้วตอนจัดเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ทั้งคู่ได้เซ็นลายเซ็นลงบนผ้ากันเปื้อน แล้วเขาสัญญาว่าเขาจะใส่ไปเมืองไทยแล้วถ่ายรูปให้เธอดูด้วย
ครั้งนี้เป็นการย้ายเรือนหอให้ที่สองของทั้งคุ่ฮวางโบมารับฮยอนจุงที่หน้าบ้านเดิม ที่รถบรรทุก แทนที่จะขับรถเปิดประทุน ฮยอนจุงรู้สึกเขินๆ แต่ก็ยินยอมที่จะนั่งไปกับฮวางโบ บนรถฮยอนจุงก็ถามว่า ทำไมต้องย้ายบ้านด้วย ฮวางโบบอกว่า ที่นี่ไกลไป น้ำมันก็แพง การกาเงินเป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆ เราเลยต้องย้ายกัน (ยิ่งเจ้าบ้านมีงานแค่สองงานในเดือนนี้) วันนั้นฮวางโบก็ไม่สบาย เป็นหวัดและเจ็บคอ แต่ฮยอนจุงบอกว่า เป็นหวัดแบบนี้ทำให้พี่มีเสียงที่เป็นผู้หญิงขึ้นมาหน่อย ระหว่างรถติด ฮวางโบก็ได้สังเกตใบหน้าของเจ้าบ่าวว่าทีหนวดด้วย เธฮเลยถามไปว่า ไว้หนวดด้วนหรอ ฮยอนตุงก็ตอบว่า วันนี้เขาลืมโกนมา เพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่ทำให้กัวงใจอยู่สามอย่าง อย่างแรก เขาทำมือถือหายระหว่างมาที่ประเทศไทย อย่างที่สอง เขาทำที่โกนหนวดหายเขาเลยไม่มี่โกนหนวด อย่างสุดท้าย เขาทำครีมบำรุงผมหายทำให้วันนี้ผมของดูไม่นุ่มเลย
พอมาถึงบ้านใหม่ เขาก็ได้ภารกิจคือ สร้างความทรงจำสำหรับคู่สามีภรรยา พวกเขาเลยบอกว่าการย้ายบ้านนี้แหละคือความทรงจำ การใช้แรงงาน บ้านหลังใหม่ของพวกเขา เล็กกว่าเดิมแต่ก็ดูอบอุ่น แต่ทว่า สิ่งที่โปรดปรานของฮยอนจุงก็หายไปด้วยนั่นคือสระว่ายน้ำ ฮยอนจุงได้ให้สัมภาษณ์ว่า ดูเหมือนเศรษฐกิจของบูอิน(คำเรียกของฮวางโบ) จะไม่ค่อยดี ก็หน้านี้เราใช้น้ำกันไปเยอะมากๆ เราก็ควรจะประหยัดกัน แต่อยู่มีแมลงที่ไหนบินมาในห้องส่ง ฮยอนจุงถึงกลับตกใจมากๆ จนขอร้องให้ทีมงานไล่แมลงออกไป
ระหว่างจัดบ้านฮวางโบนำเอาสิ่งที่สำคัญให้ฮวางโบเอาไปติด เธอบอกว่าเอาไว้ไล่สิ่งชั่วร้าย นั่นคือรูปถ่ายเธอนั่นเอง ตอนที่ยกโซฟาเข้ามาในห้องทั้งคู่ดูทุลักทุเล แต่เจ้าบ่าวขาไร้เรี่ยวแรงจึงหกล้มไป เขาบอกว่าเราน่าจะให้เพื่อนบ้านมาช่วย ฮวางโบพูดไปว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับเพื่อนบ้าน เพราเพื่อนบ้านเป็นผู้หญิง และแล้วทั้งคู่ก็ได้จัดบ้านเสร็จ และสัญญารักที่เขาเขียนไว้ บนโต๊ะกระจกดูเหมือนพิพิธพันธ์ ฮวางโบบอกว่า เมื่อคืนเธอได้นอนตอนตีห้า เพราะเธอได้ถักผ้าพันคอให้ฮยอนจุงจนเสร็จ ทำให้เธอไม่สบาย ฮยอนจุงได้ให้สัญญาว่าเคาจะใส่ตอนหน้าหนาว
เมื่อคราวที่ฮยอนจุงได้ไปเมืองไทยแล้วได้ทำของสารพัดหาย เขาได้ซื้อของฝากให้ฮวางโบด้วยนั่นคือครีมบำรุงสารพัด เขาบอกว่าที่เมืองไทยนั้นถูกมากๆ ไว้ให้พี่ลบรอยเหี่ยวย่น ฮวางโบได้ทวงถามถึงเพลง ที่ฮยอนจุงสัญญาว่าจะเล่นให้เธอฟัง ฮยอนจุงสารภาพว่าเขาเล่นได้เท่าเดิม แต่ว่าเพลงนั้นอ่อนหวานกว่าเดิม ฮวางโบก็ให้ฮยอนจุงเล่นให้เธฮฟังพอถึงท่อนเดิม ฮยอนจุงก็หยุดเล่น เขาบอกว่าเขาเล่นไม่ได้แต่เขาจะร้องเพลงให้เธฮฟัง เพลงนั้นคือ มันคือโชคดี(ชื่อเพลงได้แปลไว้แล้ว) พอร้องๆเขาก็หยุด เขาจำเนื้อร้องไม่ได้ เขาจึงขอให้ฮวางโบช่วยดาว์โหลดเนื้อร้องให้เขาหน่อย กว่าจะร้องได้จบแต่ก็เหมือนไม่จบ เพราะหน้าจอมือถือของฮวางโบดับตลอดเวลา ฮยอนจุงเลยลัดไปท่อนฮุกเลย แต่เขาร้องได้เพราะจริงๆ
บ้านหลังใหม่ มี่สระว่ายน้ำ ฮวางโบเลยซื้อสระว่ายน้ำแบบเป่าลมมา มา เธฮนั่งเป่าลมให้ฮยอนจุง ฮยอนจุงขอเธอถ่ายรูป แต่เขาได้ถ่ายแบบไม่ให้ฮวางโบรู้ตัว ฮวางโบเลยถามไปว่า เมื่อกี้เธอถ่ายแค่หลังฉันไปเองน่ะ ฮยอนจุงตอบไปว่า เมื่อกี้ผมถ่ายแค่ไหล่ เขาบอกว่า ถ้าถ่ายเห็นทั้งหมด มันก็ดูไม่มีความหมายอ่ะซิ ฮยอนจุงต้องไปญี่ปุ่นอีก ทำให้เขาไม่สามารถมาอัดรายการในห้องส่งได้ เขาจึงฝากรูปถ่ายติดพาสปอร์ต ให้ทีมงาน เพราะเขากลัวเธอจะเหงา เวลานั่งอัดรายการ ทางทีมงานจึงอัดรูปขนาดใหญ่ วางไว้ข้างๆฮวางโบ และเขายังให้รูปถ่ายนี้กับฮวางโบไว้
ตอนที่ฮวางโบสูบลมสระว่ายน้ำอยู่ เธอบอกว่าหิวแล้ว ฮยอนจุงบอกว่างั้นเดี๋ยวผมออกไปหาอะไรให้พี่กินเอง ก่อนออกไปฮยอนจุง ใส่ผ้าพันคอ และเสื้อที่ฮวางโบทำให้ แต่เขาบอกว่าเขาจะใส่หมวกไปด้วยเพราะเดี๋ยวมีจะจำเขาได้ตอนที่ฮยอนจุงไปเอาเสื้ออกมา ฮยอนจุงได้สารภาพว่าเหมาของเขาอึใส่เสื้อเขาเลยเอาไปซัก ทำให้ลายเซ็นของฮวางโบหายไปแล้วเขาก็ไม่ได้ใส่เสื้อไปเมืองไทยด้วย พอฮยอนจุงจะออก ฮวางโฐได้ขอโทษฮยอนจุง เธอบอกว่า ฉันมองเธอจากด้านหลังเธอดูเหมือนขอทานเลย แต่ฮยอนจุงก็ไม่สนเขาก็ออกไปในสภาพนั้น พอฮยอนจุงออกไปข้างนอก ฮวางโบก็รีบเอาปากเป่าสระว่ายน้ำให้เสร็จเธอถึงกลับหมดลมเลยทีเดียว ทางด้านฮยอนจุงออกไปซื้อ รามยอน เขาเอากล้องให้พนักงานถ่ายรูปให้เขา โพสท่าได้น่ารักมาก แต่เขาก็ไม่ได้กลับบ้านทันที เขาเดินไปร้านขายยา ซึ่งอยู่ไกลมากๆ เพื่อซื้อยาแก้หวัดให้ฮวางโบ
พอกลับมาถึงบ้าน เขาก็เอารูปถ่ายมาให้เธอดู แล้วอายาแก้หวัดมาให้ฮวางโบกิน เขาม่เคยลืมสัญญารักที่เขาเคยเขียนให้แม้แต่นิด แต่ฮวางโบกลับบอกว่า การที่เป็นหวัดทำให้เสียงฉันดูเพราะขึ้น ฮยอนจุงก็ตอบกลับไปว่า ผมบอกว่าเสียงไม่ได้เพราะขึ้นแต่ผมบอกว่าเสียงเป็นผู้หญิงขึ้น ฮวางโบเลยยอมกินยาแต่โดยดี หลังจากทานข้าวแล้วฮวางโบก็นอนพัก ขณะที่เจ้าบ่าวก็เป็นคนล้างจาน พอล้างจานเสร็จ เจ้าสาวที่แกล้งเป็นนอนหลับ ก็ลากสังขาร ชวนเจ้าบ่าวมาทความสะอาดบ้านด้วยกัน แต่ทั้งคู่ก็เถียงกันเรื่องมนุษย์ หรือ เครื่องจักรอะไรทำงานดีกว่ากัน แต่ฮยอนจุงก็เอาชนะ ด้วยเหตุผลที่ว่า บรรพบุรุษของคนคือลิง ทำให้ฮวางโบถึงกับทรุด หลังจากทำความสะอาดบ้าน ฮวางโบก็จะทำผ้าม่านและผ้าปูโต๊ะ ฮยอนจุงเสนอว่าเขาจะทำผ้าปูโต๊ะให้เองแล้ว ผ้าปูโต๊ะของเขาดูไม่เหมือนใคร เขาไปเอารูปอาหาร มาติดไว้ที่ผ้าปูโต๊ะ เขาบอกว่า ผมอยากได้ผ้าปูโต๊ะแค่องก็รู้สึกอิ่มแล้ว เพราะตอนนี้รายได้ของเราสองคนไม่ค่อยดี หลังจากนั้นจะลำบากมาก ถ้าเรารู้สึกหิวแค่มองมันก็รู้สึกอิ่ม เขายังบอกอีกว่า เมนูน่าจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างหน้าร้อนก็เป็นบะหมี่เย็น หน้าหนาวก็เป็นขนมปังถั่วแดงได้แล้วนอกจากผ้าม่านและผ้าปูโต๊ะทั้งคู่ได้ทำป้ายภาษิตประจำตระกูล “ชีวิตของฉันคืองาน งานจงมาหาฉัน”
วันรุ่งขึ้นฮยอนจุงต้องไปญี่ปุ่น ฮวางโบเลยช่วยคุณสามีจัดกระเป๋า ฮวางโบได้ให้สัมภาษณ์ว่า รายการนี้สุดยอดจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องจริงแต่มันก็ดูเหมือนจริง ตอนที่เธฮจัดเสื้อผ้าเธอรู้สึกกังวล แล้วเธอยังบอกอีกว่าเธฮเกลียดกระเป๋าเดินทาง เพราะมันดูเหมือนต้องจากกัน แค่จัดเสื้อผ้านั้นยังไม่พอ เธอยังเตรียมรามยอนและวิตามินให้ฮยอนจุงด้วย ถึงแม้ฮยอนจุงบอกว่า ที่ญี่ปุ่นราเมงอร่อยกว่าที่เกาหลีก็เหอะ ตอนจักกระเป๋าสีหน้าของฮวางโบนั้นไม่ค่อยดูน่าปลื้มเท่าไหร่นัก เพราะฮยอนจุงแกล้งบอกว่า ผมไปก่อนน่ะ ฮวางโบก็รู้สึกเสียใจนิดๆที่สามีของเธอนั้นเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย ที่จะต้องแยกกัน พอเลิกเศร้าแล้วฮวางโบก็ได้ทำเซอร์ไพร์โดยการเอาน้ำมาเติมในสระยางให้เต็ม ตอนแรกฮวางโบใช้แก้วเติมก่อน ถัดมาใช้หม้อ ฮยอนจุงทนดูไม่ไหวเลยช่วยฮวางโบเติมน้ำเองเพราะเขาใช้ฝักบัวเติมน้ำ เร็วกว่าใช้หม้อตั้งเยอะ ขณะที่ฮยอนจุงกำลังเติมน้ำ ฮวางโบก็ได้เขียนจดหมาย แล้วแอบไว้ในกระเป๋ากุญแจของฮยอนจุง ในจดหมายเขียนว่า เวลาพี่ไม่อยู่ข้างๆ ผู้ชายที่ทำตัวดีก็คือสามีสุดหล่อของพี่เอง พอเติมน้ำเสร็จ ฮยอนจุงก็จะทำเซอร์ไพร์ให้ฮวางโบ เขาให้ฮวางโบนั่งเล่นน้ำรอ ส่วนเขาเข้าไปอยู่ในห้องนอน ฮวางโบรออยู่ 20 นาที สงสัยรอไม่ไหว เลยตะโกนเรียกฮยอนจุง ภายในห้องฮยอนจุง กำลังนั่งพับนก แล้วท่องเนื้อเพลง พอได้ยินฮวางโบเรียกเขาก็ออกมา พอฮวางโบถามว่าทำไรอยู่ ฮยอนจุงก็ยื่นนกมาให้ฮวางโบ ฮวางโบไม่ได้รู้สึกดีใจแม้แต่นิดแล้วยังตัดพ้ออีกว่า พี่พยายามจะเข้าใจเธอแต่ตอนนี้พี่ไม่เข้าใจเธอเลยแม้แต่นิด ฮยอนจุงบอกว่า เพราะผมอยากจะพับนกด้วยวิธีที่ผมรู้คนเดียว ถ้าพับนก 1000 ตัว ความรักจะเป็นนิรันดร์ แต่อย่างไร ฮวางโบก็รู้สึกผิดหวังอยู่ดี ฮยอนจุงได้ให้สัมภาษณ์กับทีมงานว่า ผมก็เป็นของผมอย่างนี้ ผมพับนกมา10 ปีแล้ว การพับนกเป็นสิ่งที่ผมมั่นใจอย่างมาก แล้ววันนี้เขาได้สารภาพว่า วันนี้เขาได้ทำพลาดหลายอย่าง เล่นเปียโนไม่ได้ ลายเซ็นของฮวางโบที่หายไป เสื้อที่ฮวางโบตัดให้ก็ไม่ได้ใส่ไปเมืองไทย ทำให้เขากลัวจะถูกฮวางโบว่า (ออกแนวกลัวภรรยานิด) เพราะช่วงนี้ฮวางโบชอบโมโหบ่อยมากๆ อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นเรื่อยๆ
ฮยอนจุงได้ร้องเพลง ที่อุตส่าห์จำเนื้อร้อง แต่เขาเขินมาก จึให้ฮวางโบ หันหน้าออกไป เอาหูฟังอย่างเดียว ตาห้ามดู แล้วเขาขอโทษฮวางโบ ที่จำโน้ตเปียโนไม่ได้ ฮวางโบกลับมายิ้มได้อีกรอบ หลังจากฮยอนจุงร้องเพลงเสร็จ ฮวางโบได้ให้สัมภาษณ์ว่า เนื้อเพลงความหมายดีทีเดียว นี่เป็นสิ่งที่เขาได้ทำให้ฉัน ฉันพูดว่าเขาจะทำให้ฉันได้ไหม การที่เขาจำโน้ตเปียโนไม่ได้ แต่เขาก็ร้องเพลงให้ฉัน ถึงแม้เป็นสิ่งเล็กน้อยแต่ฉันก็รู้สึกชอบ และเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนเขาเป็นสามีที่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลย แต่ตอนนี้ฉันรู่สึกว่าเขาเปลี่ยนไปเยอะ
ฮยอนจุงได้ถามฮวางโบว่า เขาจะไปญี่ปุ่นจะเอาของฝากอะไรไหม ฮวางโบบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก พวกเราต้องประหยัดอย่าเปลืองเงินเลย แต่เจ้าบ่าวบอกว่าไม่ได้เปลืองเงินเลย ฮวางโบเลยยิ้ม แล้วบอกของที่เธฮต้องการ คือหมวกอาบน้ำ ที่กำจัดคราบสกปรก และ กางเกงในใช้แล้วทิ้ง ฮยอนจุงบอกว่าเมื่อเขาถึงญี่ปุ่นแล้วเขาจะโทรหาเธอบ่อยๆ
สุดท้ายนี้ ฮยอนจุงได้ฝากข้อความถึงฮวางโบที่เขาได้อัดไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะไปญี่ปุ่น “ฮวางบูอิน หวัดดีฮะ ผมฮยอนจุงน่ะ ตอนที่พี่ได้เห็นข้อความนี้ พี่อาจไม่คิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะมีจิตใจดีเหมือนกัน พอผมญี่ปุ่นผมจะยึดมั่นในคำสัญญาของเรา ผมจะซื้อของฝากมาให้ แล้วผมจะเรียนการทำอาหารญี่ปุ่น ฮญ่าเศร้าเลยน่ะครับ รอผมด้วย วันนี้ที่ผมไปอัดรายการไม่ได้ ที่ข้างๆตัวพี่มีรูปติดพาสปอร์ตของผมอยู่ ถึงอย่างนั้นพี่ต้องดูแลมันอย่างดี ผมจะรีบกลับมาน่ะครับ ต่อไปผมจะไม่หายไปอีก ขอโทษด้วยน่ะครับ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น